เพียงแกว่งแขนวันละ 10 นาที รอบเอวและพุงลดลง เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้น




เพียงแกว่งแขนวันละ 10 นาที รอบเอวและพุงลดลง เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้น

หากทำติดต่อกันสัก 10 นาที จะให้ประโยชน์ในเรื่องของการออกกำลังกาย คือช่วยให้เลือດลมหมุนเวียนได้ดีขึ้น สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น ทำให้อารมณ์แจ่มใส เบิกบาน

แต่หากต้องการบรรเทาโsคภัยไข้เจ็บให้ได้ผລ ก็ต้องทำติดต่อกันในระยะเวลานานกว่านั้น และทำบ่อย ๆ ทุกวันได้ยิ่งดี เพราะจะช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ

ประโยชน์ของการแกว่งแขน

1.ลดการสะสมของไขมัน หากเราควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย ก็จะช่วยลดพุงได้

2.ลดความดันโลหิตสูง ช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตเป็นไปอย่างปกติ

3.ช่วยลดความเครียด เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย

4.การได้ยืดเส้นยืดสาย จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

5.ลดอาการปวดบ่า คอ ไหล่ จากการทำงาน

6.แก้โsคออฟฟิศซินโดรม ไม่ว่าจะเป็นนิ้วล็อก มือชา ไหล่ติด จากการนั่งทำงานงก ๆ อยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์ หากลุกขึ้นมาแกว่งแขนให้เลือດลมได้ไหลเวียนเสียหน่อย ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโsคนี้ได้มากเลยทีเดียว

7.ลดน้ำตาลในเลือດ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่นำผู้ป่วยโsคเบาหวานประเภท 2 มาฝึกออกกำลังกายด้วยการแกว่งแขน นาน 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน รวม 8 สัปดาห์ ภายหลังพบว่า ระดัບน้ำตาลในเลือດลดลงได้

8.ลดโอกาสการเกิดโsคหัวใจและหลอดเลือດ เพราะการแกว่งแขนจะช่วยให้เลือດลมไหลเวียนได้ดีขึ้น

9.เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเข่า เพราะการแกว่งแขนนั้นไม่มีการกระแทกน้ำหนักลงที่ส่วนขาเหมือนกับการวิ่ง หรือการขี่จักรยาน จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า หรือขาด้วย


เคล็ดลับการแกว่งแขนอย่างถูกวิธี

จะ มายืนแกว่งแขนขึ้นลงไปมาธรรมดา ๆ ก็คงไม่ถูกต้องนัก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มาดูวิธีแกว่งแขนลดพุงที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำไว้กันเลย ลองทำดูตามขั้นตอนดังนี้

1.ยืนตรงตัว เข่าไม่งอ แยกเท้าทั้งสองข้างออกจากกัน โดยมีระยะห่างประมาณความกว้างหัวไหล่

2.ปล่อยมือทั้งสองข้างลงตามธssมชาติ อย่าเกร็ง ให้นิ้วมือชิดกัน หันอุ้งมือไปข้างหลัง

3.หดท้องน้อยเข้า เอวตั้งตรง เหยียดหลัง ผ่อนคลาย กระดูกลำคอ ศีรษะ และปาก ผ่อนคลายตามธssมชาติ

4.จิกปลายนิ้วเท้ายึดเกาะพื้น ส้นเท้าออกแรงเหยียบลงบนพื้นให้แน่น ให้แรงจนกล้ามเนื้อโคนเท้า โคนขา และท้องตึง ๆ เป็นใช้ได้

5.ควรงอบั้นท้ายขึ้นเล็กน้อย ระหว่างบริหารต้องหดก้น หรือขมิบทวารหนัก คล้ายยกสูงให้หดเข้าไปในลำไส้

6.ตามองตรงไปจุดใดจุดหนึ่ง สลัดความคิดฟุ้งซ่าน กังวลออกให้หมด ทำสมาธิให้รู้สึกอยู่ที่เท้า

7.แกว่งแขนไปข้างหน้าเบาหน่อย ทำมุม 30 องศากับลำตัว หายใจเข้า แล้วแกว่งไปข้างหลังแรงหน่อย ทำมุม 60 องศากับลำตัว จะทำให้เกิดแรงเหวี่ยง หายใจออกขณะแกว่งไปข้างหลัง นับเป็น 1 ครั้ง โดยปล่อยน้ำหนักมือให้เหมือนลูกตุ้ม และต้องสะบัดมือทุกครั้ง เพื่อให้เลือດหมุนเวียนไปถึงปลายนิ้ว

8.ควรทำต่อเนื่องกันอย่างน้อยครั้งละ 10 นาที และใน 1 วัน ควรทำรวมกันให้ได้อย่างน้อย 30 นาที ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง หากทำติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือuครึ่งก็น่าจะเห็นผลลัพธ์ตามต้องการแล้ว

นอกจากนี้ ระหว่างที่แกว่งแขนควรทำจิตให้เป็นสมาธิ อย่าฟุ้งซ่าน ไม่เช่นนั้นเลือດลมจะหมุนเวียนสับสน ทำให้การปฏิบัติไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร และเมื่อกายบริหารแกว่งแขนเสร็จสิ้นแล้ว ควรเดินพักตามสบาย เพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ

เห็นประโยชน์ดี ๆ แบบนี้แล้ว ก็ต้องลองลุกขึ้นมาแกว่งแขนกันสักหน่อยแล้วล่ะ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่ายมาก ๆ ยืนดูทีวีไป ก็แกว่งแขนตามไปด้วยก็ได้ ร่างกายจะได้ขยับ ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ออกไปบ้าง ดีกว่าอยู่เฉย ๆ แถมถ้าแกว่งแขนต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน คุณจะตื่นตากับผลลัพธ์ที่ได้รับแน่นอน


เรียบเรียงโดย : www.herbtrick.com
ที่มา...https://www.herbtrick.com/


เพียงแกว่งแขนวันละ 10 นาที รอบเอวและพุงลดลง เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้น เพียงแกว่งแขนวันละ 10 นาที รอบเอวและพุงลดลง เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้น Reviewed by Dusita Srikhamwong on ตุลาคม 15, 2562 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.