9 มารยาทที่คนเป็นพ่อแม่ควรสอนลูก เพราะหากไม่รู้ จะถูกมองว่าที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท

9 มารยาทที่คนเป็นพ่อแม่ควรสอนลูก เพราะหากไม่รู้ จะถูกมองว่าที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท

มารยาท เป็นคุณลักษณะประจําตัวของบุคคลได้แก่การสัมมาคารวะความสุภาพ อ่อนน้อมความมีวินัยและพฤติกรรมต่างๆ ที่ปรากฏแก่สายตาของผู้อื่นนักธุรกิจที่ดี

นอกจากจะมีความสามารถในเชิงธุรกิจแล้วยังต้องรู้จักรักษากิริยามารยาท และจะต้องรู้จักการสมาคมกับผู้อื่น จึงจะเป็นบุคคลที่มีเสน่ห์เพิ่มความสนใจให้กับผู้พบเห็นจึงนับได้ว่าเขาผู้นั้นเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสําเร็จในการดําเนินธุรกิจในชีวิตประจําวัน

1. อย่าโทรหาใครเกิน 2 รอบ ถ้าเขาไม่รับโทรศัพท์ แปลว่า ติดธุระสำคัญอยู่ หรือ โทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตัว

2. ถ้าเห็นใครโดนดุอยู่ อย่าหันไปมอง เพราะมันทำให้คนโดน ยิ่งรู้สึกอึดอัด

3. ถ้ามีคนเลี้ยงข้าว อย่าสั่งอาหารแพง อย่าเลือกมาก ถ้าเป็นไปได้ให้เขาเลือกเมนูให้

4. อย่าถาม “คำถามแปลกๆ” เช่น ยังหางานไม่ได้หรอ? ยังหาแฟนไม่ได้หรอ? ยังซื้อบ้านไม่ได้หรอ? มันทำให้คนขายหน้า

5. อย่าไปบุกบ้านใคร โดยที่ไม่ได้นัดหมาย (ถึงจะสนิทหรือไม่สนิทก็ตาม) โทรบอกก่อน

6. อย่าเปิดประตูห้องใคร โดยไม่เคาะ รอให้ตอบกลับก่อน ถ้าไม่มีใครตอบก็ไม่ควรเปิด

7. ถ้าเห็นใครอกหัก สอบตก หรือทำอะไรผิดพลาด อย่าซ้ำเติมด้วยคำพูดว่า “ว่าแล้วต้องงี้”

8. การมีน้ำใจในที่สาธารณะ เปิดประตูให้คนที่เดินต่อ จากคุณด้านหลัง ช่วยเพิ่มเสน่ห์ได้หลายเท่า

9. ถ้าใครยื่นโทรศัพท์ให้ดู อย่าเนียนลากนิ้ว แอบส่องรูป แอบดูแชท รายชื่อโทรเข้าโทรออก ต้องให้ความเคารพพื้นที่ส่วนตัว

นอกเหนือจากมารยาท 9 ข้อข้างต้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรรู้คือ “รู้กาลเทศะ” เรื่องนี้มีประเด็นเยอะมาก การรู้กาลเทศะ หมายถึง อะไรหลายๆ อย่าง เช่น การรู้ว่าสิ่งใดควรจะพูด สิ่งใดไม่ควรพูด รู้จักสำรวม

บ่อยครั้งที่เห็นคนคุยและหัวเราะด้วยความสนุกสนานในงานศพ เพราะไม่ได้เจอกันมานาน บางครั้งลืมตัวจนยิ้มแฉ่งถ่ายรูปหน้าศพด้วยซ้ำไป ไปงานมงคล เรารื่นเริงได้ แต่ไปงานศพ ควรต้องสำรวมกิริยา ยิ้มให้กันได้ แต่ไม่ใช่นั่งหัวเราะเอิ้กอ้าก เรื่องการใช้เสียงก็เป็นเรื่องที่บาดหูพอสมควร คนสมัยนี้ รู้สึกว่าทุกแห่งเป็นที่ส่วนตัวไปหมด คุยกันเสียงดังได้ยินข้ามห้อง หรือบางคนคุยโทรศัพท์มือถือเสียงดังลั่นลิฟต์ เป็นต้น

ขอบคุณที่มา…The FOOL DOG // https://khayanpost.blogspot.com