เnคนิคซักผ้าห่มนวม ให้หอมนาน ไม่ตากแดดก็ไม่เ ห ม็ น อั บ

เnคนิคซักผ้าห่มนวม ให้หอมนาน ไม่ตากแดดก็ไม่เ ห ม็ น อั บ

เชื่อว่าหลายๆบ้านอาจจะกำลังมีปัญหากับการซักผ้านวมแล้วมีกลิ่นไม่หอม หรือมีกลิ่นอับติดมาด้วย เราไปดูวิธีที่ทำให้ผ้าหอม แม้ตากในร่มกันค่ะ

ก่อนอื่นนนั้นเราต้องรู้หลักการเหล่านี้ก่อนเลย คือ ต้องดูฉลากที่ติดมากับเครื่องนอนก่อนว่าสามารถนำไปซัก หรือเปียกน้ำได้หรือเปล่า เพราะเนื้อผ้าบางชนิดที่อัดแน่นอยู่ในหมอน ก็อาจจะนำมาซักทำความสะอาดด้วยน้ำไม่ได้ นอกจากนี้ก็ควรจะสังเกตเนื้อผ้าก่อนด้วยว่า มีความบอบบางมากน้อยแค่ไหน สามารถนำไปปั่นในเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ ถ้าลักษณะผ้าหุ้มหมอนไม่ค่อยหนาและไม่ทนทาน ควรจะซักทำความสะอาดด้วยมือแทนการซักเครื่อง

การซักผ้านวมให้ไม่มีกลิ่นอับนั้น มีหลักการง่ายๆ นั่นก็คือไม่ให้ เ ชื้ อ แ บ ค ที เ รี ย ที่ทำให้เกิดกลิ่นอั บได้เจ ริญ เติบโต โดยใช้สิ่งของ ที่มีในบ้านเราเลยค่ะ

– ใช้น้ำมะน าว

ผ้าห่มผ้านวมเวลาที่มี ก ลิ่ นอั บนั้น ให้เราใช้น้ำมะนาวสดผสมกับน้ำเปล่า ใส่ลงไปในขวดแล้วนำไป ฉี ดนำมาพรมให้ทั่วผ้าห่มของเรา จากนั้นนำผ้าห่มนี้ไปตากเอาไว้ในที่ร่ม ให้อากาศระบายได้ดี ข้ามคืน ก ลิ่ นอั บจากผ้าก็จะ ห า ยไปได้

– ซองดูดความชื้ น และ ส บู่

ซองกันชื้นหรือว่าสบู่ เราสามารถนำมาเป็นตัวช่วยได้ ให้เราพับผ้าห่มเก็บเอาไว้ให้เรียบร้อย จากนั้นให้เราใส่ซองกันชื้นลงไปในผ้าห่ม สบู่หอมสัก 1 – 2 ถุง ห่อผ้าเอาไว้ ไม่กี่วันกลิ่นเหม็นอับบนผ้าห่มก็จะจางหายไป เวลาที่เราซักผ้าห่มเสร็จใหม่ๆ

และเก็บผ้าห่ม อย่ าลืมที่จะใส่ซองกันชื้น ใส่สบู่หอมลงไป เท่านี้เวลาที่นำออกมาใช้ก็จะไม่มีกลิ่นเหม็นอับชื้น จะมีกลิ่นความหอมของสบู่มาแทน

– ใช้น้ำส้มสา ยชู ใส่ลงไปด้วยขณะที่ซักผ้า 

สำหรับเครื่องซักผ้าอัตโ นมั ติให้ใส่น้ำส้มส ายชูลงไปในช่องใส่น้ำ ย า ปรับผ้านุ่ม หรือจะใส่ลงไปก่อนซักน้ำสุดท้ายก็ได้ ก ร ด อ ะ ซิติกอ่อนๆ ของน้ำส้มสา ยชูจะช่วยทำให้ผ้าขาวกระจ่างขึ้น ทำให้ผ้าขาวกลับมาข าวไม่หมอง ส่วนผ้าสีคงทนให้สีสดใสเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดคุณ ค่าจากน้ำส้มส ายชู

เทคนิคการป้องกันไรฝุ่นและความสกปรก หากไม่อยากให้สิ่งสกปรกมารบกวนเครื่องนอนของคุณได้ง่าย ๆ ก็ควรคลุมเตียงด้วยผ้าที่มีใยผ้าหนา และถักได้ละเอียดแน่นทุกวัน และหมั่นซักผ้าคลุมเตียงบ่อย ๆ ส่วนผ้าห่มและหมอนก็ควรนำไปตากแดดจัด ๆ สักเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อกำจัดไรฝุ่นและเชื้อโรค หรือถ้าคุณมีเครื่องอบ ก็นำเครื่องนอนไปอบด้วยความร้อนระดับปานกลางประมาณ 15 นาทีก็ได้เหมือนกันค่ะ


ขอขอบคุณที่มา: posts o d, kap o o k, yakkinn 9 9 9