ผมเพิ่งคิดได้เมื่ออายุ 60 ปี เมื่ออายุมากขึ้น ก็ยิ่งเข้าใจชีวิตมากขึ้น




ผมเพิ่งคิดได้เมื่ออายุ 60 ปี เมื่ออายุมากขึ้น ก็ยิ่งเข้าใจชีวิตมากขึ้น

ชีวิต อย่าคาดหวังอะไร… มากไปกว่าความสำเร็จในแต่ละช่วงวัย ใช้ชีวิตเรียบง่าย และ มีความสุขอยู่เสมอ

อายุ 1 ขวบ ความสำเร็จ คือ เดินได้โดยไม่ต้องมีใครช่วยพยุง

อายุ 4 ขวบ ความสำเร็จ คือ ไม่ฉี่รดกางเกง

อายุ 8 ขวบ ความสำเร็จ คือ จำทางจากโรงเรียนกลับบ้านได้

อายุ 15 ปี มีเพื่อนมากมาย คือ ความสำเร็จ

อายุ 18 ปี สอบเข้ามหาลัยได้ คือ ความสำเร็จ

อายุ 22 ปี เรียนจบมหาวิทยาลัย คือ ความสำเร็จ

อายุ 25 ปี มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เลี้ยงดูตัวเองได้ คือ ความสำเร็จ

อายุ 30 ปี มีครอบครัว คือ ความสำเร็จ

อายุ 35 ปี สร้างฐานะได้มากขึ้น คือ ความสำเร็จ

อายุ 45 ปี ให้การศึกษาที่ดีแก่ลูกๆ คือ ความสำเร็จ

อายุ 50 ปี รักษาภาพลักษณ์ที่ดี คือ ความสำเร็จ

อายุ 55 ปี ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดี คือ ความสำเร็จ

อายุ 60 ปี ยังขับรถได้ คือ ความสำเร็จ

อายุ 65 ปี สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัย คือ ความสำเร็จ

อายุ 70 ปี ไม่เป็นภาระใคร คือ ความสำเร็จ

อายุ 75 ปี ยังพบปะเพื่อนเก่าๆ คือ ความสำเร็จ

อายุ 80 ปี ยังจำทางกลับบ้านได้ คือ ความสำเร็จ

อายุ 85 ปี ไม่กลับมาฉี่รดกางเกง คือ ความสำเร็จ

อายุ 90 ปี ยังสามารถเดินได้ โดยไม่ต้องมีใครช่วยพยุง คือ ความสำเร็จ

มีเพื่อนคนหนึ่งอายุ 60 ปีแล้ว ผมถามเขาว่า… ที่ผ่านมาในชีวิตคุณได้เรียนรู้อะไรไปบ้าง และ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหลังจากที่คุณได้เรียนรู้ชีวิต เขาอธิบายสรุปออกมาเป็นข้อๆได้ 10 ข้อ ดังนี้

1. แต่ก่อนผมรักพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง แต่เดี๋ยวนี้ เมื่ออายุมากขึ้น สุขภาพเริ่มถดถอย ผมหันกลับมารักตัวเองมากขึ้น

2. ผมไม่ต่อราคากับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายผักขายผลไม้ การจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อยไม่มีผลกระทบกับชีวิตผม แต่อาจส่งผลต่อพวกเขา เงินเพียงเล็กน้อยเหล่านี้อาจหมายถึงค่าเล่าเรียนในอนาคตของลูกๆ เขา

3. เวลาจ่ายค่าแท็กซี่ ผมจะไม่รอให้โชเฟอร์หาเศษเหรียญมาทอน ให้ทิปเขาเล็กน้อย อาจจะได้รับรอยยิ้มตอบแทน เพราะยังไงเขาก็หาเลี้ยงชีพลำบากกว่าผม

4. ผมจะไม่พูดกับผู้สูงอายุอีกว่า “ นิทานเรื่องนี้ท่านได้เล่าหลายครั้งแล้ว ” เพราะนิทานเหล่านี้ช่วยฟื้นความทรงจำ และ การรำลึกอดีตของพวกท่าน

5. ผมจะไม่แก้ไขคนอื่นอีกต่อไป แม้ว่าเขาเหล่านั้นจะผิด เพราะ การทำให้ทุกคนสมบูรณ์แบบไม่ใช่ความรับผิดชอบของผม

6. ผมจะมองในแง่บวกและชื่นชมมากกว่าตำหนิ เพราะนั่นไม่เพียงแต่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งอารมณ์ดี แต่เป็นประโยชน์กับตัวเราเองด้วย

7. ผมจะไม่กังวลกับจุดเปื้อนบนเสื้อ หรือ ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่น เพราะ จิตใจสำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ผมจะมองไปที่นิสัย และ ข้อดีที่แท้จริงของคนๆนั้น

8. ผมจะอยู่ห่างๆกับคนที่เขาดูถูกผม เพราะพวกเขาไม่เข้าใจคุณค่าในตัวผมแล้วยังทำให้จิตใจขุ่นมัวเปล่าๆ

9. ผมจะไม่ยึดถือความคิดเห็นของตัวเอง จนต้องทำลายมิตรภาพ ท้ายที่สุด การมีความสุขอยู่คนเดียว ก็ไม่สู้มีความสุขกันทั่วหน้า

10. ผมถือว่าทุกวันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต เพราะ ท้ายที่สุด วันสุดท้ายของชีวิตก็จะมาถึงสักวันหนึ่ง นี่คือผมกำลังทำในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข

ย้อนมองเส้นทางแห่งชีวิต เพื่อนๆบางคนที่เคยทำงานด้วยกันมา ยังไม่ทันได้เกษียณก็จากโลกไปแล้ว บางคนเพิ่งจะเกษียณไม่นาน ก็ต้องไปใช้ชีวิตในโรงพยาบาล ส่วนผม.. โชคดีมากที่ยังคงสัญจรไปมาอย่างร่าเริง ต้องขอบคุณทุกสิ่งที่ผ่านมา ที่ทำให้ตัวผมได้เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

Cr. ต้นฉบับภาษาจีน หม่าหุ้ย หัวหน้าบรรณาธิการสำนักพิมพ์ชิงหัว , FW Line


ผมเพิ่งคิดได้เมื่ออายุ 60 ปี เมื่ออายุมากขึ้น ก็ยิ่งเข้าใจชีวิตมากขึ้น ผมเพิ่งคิดได้เมื่ออายุ 60 ปี เมื่ออายุมากขึ้น ก็ยิ่งเข้าใจชีวิตมากขึ้น Reviewed by Dusita Srikhamwong on ธันวาคม 17, 2562 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.