5 เรื่องที่ไม่ควรเชื่อศูนย์บริการ อาจเปลืองเงินแบบไม่จำเป็น

5 เรื่องที่ไม่ควรเชื่อศูนย์บริการ อาจเปลืองเงินแบบไม่จำเป็น

เมื่อถึงระยะเช็ครถ ที่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือซ่อมแซมรถ มักจะเจอกับเหตุการณ์ที่พนักงานศูนย์บริการเสนอให้เปลี่ยนอะไหล่ตัวนั้นตัวนี้ หรือเสนอผลิตภัณฑ์หลายอย่าง

ซึ่งบางอย่างก็เกินความจำเป็น และคุณภาพก็อาจจะไม่ได้แตกต่างจากร้านข้างนอกเลย แต่คิดในราคาที่สูงกว่า วันนี้เราจึงได้นำ 5 สิ่ง ที่ไม่ควรเชื่อศูนย์บริการ มาให้ทุกคนได้ลองอ่าน และไตร่ตรองดูตามความพอใจของเราเอง

1. น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่อง เป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนตามระยะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่า การเปลี่ยนเครื่องที่ศูนย์บริการจะดี และได้มาตรฐานกว่า จึงยอมเสียเงินไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการ แต่จริงๆแล้วน้ำมันเครื่องยี่ห้อต่าๆงที่เป็นแบรนด์มาตรฐานที่ผลิตขึ้นมานั้น มีคุณสมบัติเหมือนกัน และไม่ได้มีความแตกต่างกันมากขนาดนั้น

ซึ่งหากใครที่อยากจะประหยัดเงินในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ขอแนะนำให้เปลี่ยนที่ร้านข้างนอก หรือสามารถเปลี่ยนเองได้ ก็จะประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้ 500-1,000 บาทเลยทีเดียว เพราะเราไม่ต้องจ่ายค่าแรงหรือกำไรส่วนต่างให้กับศูนย์บริการ

แต่หากเป็นรถยนต์มือ 1 ที่เพิ่งถอยออกมา และยังอยู่ในประกันรถของศูนย์บริการ เราขอแนะนำให้ไปเปลี่ยนที่ศูนย์ตามระยะ เพราะจะมีการเช็กระยะเรื่อยๆ เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ยังมีสัญญารถอยู่ในประกันอยู่ หากนำรถไปเปลี่ยนที่ร้านข้างนอกหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเอง ประกันจะขาดได้ แต่หากเป็นรถที่ใช้มาหลายปีแล้ว ไม่ได้อยู่ในประกัน ก็ให้ไปเปลี่ยนที่ร้านข้างนอก หรือเปลี่ยนเอง ช่วยประหยัดค่าแรงไปได้เยอะ

2. น้ำยาล้างหัวฉีด
สังเกตดูว่า เวลาที่ถึงรอบที่เราต้องเอารถไปเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะ มักจะเจอพนักงานขายมาแนะนำ โดยการให้ใส่ “น้ำยาล้างหัวฉีด” นั่นเป็นเพราะว่าศูนย์บริการต้องการที่จะเพิ่มยอดขายของบริษัท จึงต้องขายสินค้าเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งจริงๆแล้วน้ำยาล้างหัวฉีด คือ น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมแบบพิเศษ จะทำให้มีการเผาผลาญในเครื่องยนต์สมบูรณ์ขึ้น

หลายคนที่ไม่รู้ ก็มักจะถูกเสนอขายและเสียเงินไปกับส่วนนี้โดยไม่จำเป็น เชิญชวนให้ใช้ในปริมาณที่มาก เพราะปกติแล้วใช้แค่ปีละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว และหากเราต้องการจะซื้อจริงๆ ตามร้านข้างนอกก็มีขายและได้ราคาที่ถูกกว่าแน่นอน

3. ยางรถยนต์
สำหรับยางรถยนต์ เรียกได้ว่าเป็นอะไหล์ที่สำคัญมากๆกับความปลอดภัยในการขับขี่รถ เพราะหากดอกยางจะหมดแล้ว ไม่ยอมเปลี่ยน จะทำให้รถยนต์ขับไปแล้วเกาะถนนได้ไม่ดี เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และเมื่อเราต้องนำรถเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะ หรือทำการสลับยางรถยนต์ เมื่อทางศูนย์บริการเช็คแล้วพบว่าดอกยางเสื่อมสภาพ หรือดอกยางใกล้หมดแล้วนั่น ก็มักจะเปลี่ยนยางใหม่ให้ทันทีเลย

บางศูนย์บริการก็ไม่มีสต็อกยางไว้ เพราะลูกค้านานๆจะมาเปลี่ยนที ทางศูนย์ก็วิ่งเอาไปเปลี่ยนที่ร้านยาง แล้วมาคิดส่วนต่างเพิ่มที่เราอีก กลายเป็นว่าเราต้องเสียค่าส่วนต่างให้ศูนย์บริการ โดยที่คุณภาพก็เหมือนกับไปเปลี่ยนที่ร้านยางข้างนอกเอง แต่ราคากลับแพงกว่าอย่างมาก และถ้าเราเปลี่ยนที่ร้านข้างนอก ยางเส้นเก่าบางเส้นก็สามารถขายต่อได้ในราคา 50-100 บาท

4. หลอดไฟ
จริงๆแล้วหลอดไฟรถยนต์ เราไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการเลยก็ได้ หากใครที่มีทักษะช่างอยู่บ้าง ก็สามารถถอดเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ หรือจะหาข้อมูลจากทางอินเตอร์เน็ตเพื่อทำตามเองก็ได้ เพราะการเปลี่ยนหลอดไฟไม่ได้ยากอย่างที่คิด และเราก็หาซื้อหลอดไฟได้ตามร้านข้างนอก ประหยัดค่าแรงได้ได้หลายร้อยบาทเลยทีเดียว

5. แบตเตอรี่
เวลาที่เรานำรถเข้าศูนย์ แล้วศูนย์ตรวจเช็คว่า แบตเตอรี่ของคุณใกล้จะหมดอายุแล้ว ทางศูนย์ก็จะเสนอขายแบตเตอรี่ลูกใหม่ให้ พร้อมกับบรรยายสรรพคุณต่างๆที่ดูดีไปหมด ในราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งคุณภาพของแบตเตอรี่ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากร้านข้างนอกเลย จะต่างกันก็แค่เรื่องราคานี่แหละ

ซึ่งหากเรานำไปเปลี่ยนที่ร้านข้างนอกก็จะได้ราคาที่ถูกกว่า และยังมีรับเทิร์นแบตเตอรี่เก่าได้อีกด้วย เราจะประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนไปได้ 500-1,000 บาทเลยล่ะ

ทั้งนั้นทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจและการให้บริการของแต่คน บางคนอาจจะซื้อความสบายใจของตัวเอง เข้าศูนย์ก็ดูปลอดภัย ได้มาตรฐานกว่า ถึงแม้จะต้องจ่ายค่าแรงค่าของแพงกว่าหน่อย ซึ่งรถยนต์มือ 1 ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ก็ขอแนะนำให้เข้าศูนย์ก่อนจะดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องประกันขาด แต่หากใครที่แบกรับค่าใช้จ่ายของศูนย์บริการไม่ไหว แพงเกินไป หรืออาจจะมีอู่ซ่อมรถข้างนอกที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ก็ไปที่อู่นอกได้เลย


ที่มา...bitcoretech.com