กอ ดงานให้แน่นๆ 9 อย่ างนี้ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่ าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย




กอ ดงานให้แน่นๆ 9 อย่ างนี้ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่ าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ปัจจุบันนี้เราอยู่ในช่วงที่เศร ษ ฐ กิจ ข้าวย ากหมากแพง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวน มากๆ บทความนี้จะบอ ก กอ ดงานให้แน่นๆ 9 อย่ างนี้ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่ าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไปดูกันว่าอะไรบ้างที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตหากเราไม่รู้จักเก็บออม ประหยัดใช้จ่าย

เมื่อเราโตขึ้นอะไรๆรอบข้าก็เปลี่ยนแปลงไปต ามกาลเวลา จากที่เคยเป็นเด็กที่ต้องสนใจแค่การเรียน การบ้าน กิจก ร ร ม สนใจแค่เรื่องของตัวเอง

ไปวันๆ เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อน เป็นช่วงเวลาที่โคตรมีความสุขเลย แต่พอโตขึ้น พอเริ่มมีความรัก มีครอบครัว ความสุขของชีวิตที่ผ่ าน มากลับลดน้อยลง

ชีวิตเต็มไปด้วยหน้าที่ของลูก หน้าที่ของแฟน และการงานที่ต้องทำ ไม่มีเวลาเอนจอยกับชีวิตตัวเอง ทุกๆวันที่โตขึ้น ก็จะมีสิ่งให้รับผิ ดชอบมากขึ้น

หากมีครอบครัวก็ต้องวางแผนเป็นพ่อเป็นแม่ ต้องคิดถึงหล า ยอย่ าง ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้านและนอ กบ้าน

อะไรๆก็เป็นความรับผิ ดชอบที่เราต้องทำ เป็นอะไรที่เราต้องแบกรับและสู้กับมันให้ผ่ านไปในแต่ละวัน โตขึ้นความสุขก็ยิ่งห่างห า ยไปเรื่อยๆ เหลือเพียงหน้าที่และความรับผิ ดชอบ

ที่แสดงให้เห็นว่าคุณโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนั่นเอง เป็นกำลังใจให้ทุกๆคน เราต่างก็มีสิ่งที่รับผิ ดชอบกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าคุณจะยอมแพ้หรือเลือ กที่จะเผชิญหน้ากับมัน

ไ ม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ เพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่เรื่องที่เราไ ม่เคยคาดคิดกัน มาก่อน ก็ยังเกิดมาแล้ว อย่ างโ ควิ ด ที่ส่ งผลกระทบไปแถบจะทุกประเทศเป็นเวลาหล า ยเดือน

จนเ ศ ร ษ ฐ กิ จย่ำแ ย่ไปทั่วโลก ในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ดอ กเบี้ ยเงินฝาก 0% ซึ่งดูเหมือนว่าในบ้านเราก็ใกล้จะถึงจุดนั้นแล้วเช่นกัน เราทุกคนควรจะใช้ชีวิต ใช้จ่ายเงินกันอย่ างไร หรือต้องปรับตัว ต้องเจอกับอะไรบ้าง มาดูกันว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

1 เงินจะห า ย ากมากขึ้น

ลองดูทุกวันนี้สิ ว่าคนเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันน้อยลงขนาดไหน นี่ยังไม่รวมกับวิกฤ ตโ ควิ ด ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ จนส่ งผลกระทบในวงกว้าง และหากในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ดอ กเบี้ ยเงินฝาก 0% เท่ากับคนที่ฝากเงินในธนาคารจะไ ม่ได้ดอ กเบี้ ยเลย คุณรู้ไหมว่า

เงินที่สามารถงอ กเงยจากระบบดอ กเบี้ ยนั้น มีถึงแสนล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว และถ้าเงินส่วนนี้ห า ยไปกล า ยเป็น 0 คิดภาพดูสิว่าเงินห า ยไปจากเ ศ ร ษ ฐ กิ จ ชีวิตประจำวันขนาดไหน เมื่อเงินห า ยไป กำลังการซื้ อก็ลดลงด้วยเช่นกัน

2 คำว่า อิสรภาพทางการเงิน จะเอื้อมถึงได้ย ากขึ้น

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบพูดเรื่อง อิสรภาพทางการเงินกัน มากขึ้น หรือที่ชอบเรียกกันว่า Passive Income เป็นการที่มีรายได้เข้ามามากกว่ารายจ่าย แบบที่เราไ ม่ต้องทำงาน เป็นการสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ตัวเอง

ซึ่งคนสมัยก่อนจะนิยมฝากเงินเพื่อหวังจะเอาดอ กเบี้ ยได้บ้าง แต่ถ้ามองดูยุคปัจจุบัน เราคงทำแบบนั้นไ ม่ได้แล้ว และยิ่งลงทุนผิ ดที่ กล า ยเป็นว่าเราจะต้องทำงานไปตลอ ดชีวิต และไ ม่มีคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” ให้เราได้เข้าใกล้ได้เลย

3 ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้น

หากเงินฝากไ ม่มีดอ กเ บี้ย ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน คนร ว ยที่มีอยู่เพียงไ ม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็จะยิ่งร ว ยขึ้น ในขณะที่คน จ น คนที่หาเช้ากินค่ำไ ม่มีเงินเหลือเก็บ และยิ่งการวางแผนทางการเงินไ ม่มี หรือลงทุนไ ม่เป็น ไ ม่มีความรู้ในการลงทุนให้เงินงอ กเลยได้เลย ก็ต้องทำงานหนักแบบนี้ไปตลอ ดชีวิต

4 ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงาน

ปกติแล้วในวัยสูงอายุ คนวัยนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะวางแผนก่อนวัยเกษียณ เพื่อให้มีเงินเก็บเงินก้อนไว้ใช้หลังเกษียณได้มากเพียงพอที่จะสามารถฝากธนาคาร และหวังเก็บดอ กเบี้ ยกินได้บ้าง แต่ถ้าหากเงินฝากไ ม่มีดอ กเ บี้ย ก็จะทำให้เงินก้อนค่อยๆถูกใช้ไปจนหมด และก็กล า ยเป็นว่า ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองอีกครั้ง

5 หลังจากยุคดอ กเ บี้ย 0% ทุกอย่ างจะแ ย่ลงไปอีก

นั่นเป็นเพราะว่าเงินจะล้นระบบ แต่ไ ม่ใช่เงินมีมากสำหรับทุกคนหรอ กนะ เมื่อเงินล้นระบบ จะล้นไปอยู่ที่มือคนร ว ย ซึ่งคนร ว ยมีจำนวนที่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับคนจน จึงเกิดการใช้จ่ายที่น้อยต ามไปด้วย และเมื่อใช้จ่ายน้อย ก็จะส่ งผลจากเล็กๆ เช่น พ่อค้าแม่ค้าไ ม่มีคนซื้ อ

ของก็จะข า ยไ ม่ได้ ตลาด ห้างสรรพสินค้า ไ ม่มีคนเดิน คนส่วน มากไ ม่มีเงินที่จะเ อาไปใช้จ่ายให้เงินหมุนเวียนเ ศ ร ษ ฐ กิ จ และพอเ ศ ร ษ ฐ กิ จไ ม่ดี ทั้งบริษัททั้งโรงงาน ก็ต้องปิดตัวลง พนักงานและคนงาน ก็ต้อง ต ก ง า น กล า ยเป็นล้มไปหมดทั้งระบบ

6 เงินจะอยู่เหนือคน มากยิ่งขึ้น

เมื่อเงินห า ย ากมากขึ้น ก็ยิ่งมีค่ามากขึ้น และคนก็จะพย าย ามทำทุกอย่ างเพื่อให้ได้มัน มา โดยที่จะไ ม่สนว่าต้องทำให้ใครรู้สึกแ ย่ เรียกว่าไ ม่แคร์กับผลที่ต ามมาเลยก็ว่าได้

7 เงินเฟ้อแฝ ง

นอ กจากดอ กเบี้ ยเงินฝากในบัญชีจะไ ม่มีแล้ว ค่าครองชีพก็ยังเพิ่มขึ้นทุกปี หากลองมองย้อนกลับไปในอดีต จะเห็นว่าค่าครองชีพนั้น สูงขึ้นรื่อยๆ เงิน 40 บาท ที่เมื่อก่อนซื้ อก๋วยเตี๋ยวได้ 2 ช าม เดี๋ยวนี้ก็ซื้ อได้แค่ช ามเดียว เรามีเงินเท่าเดิมในขณะที่ข้าวของทุกอย่ างแพงขึ้น ซื้ อของได้น้อยลง นี่แหละที่เรียกว่า เงินเฟ้อแฝงก็คือ “ค่าครองชีพ”

8 คอรัปชั่น และ การโก งจะมากขึ้น

แน่นอนว่าเงินยิ่งห า ย าก การมีโอ กาส หรือหนทาง ก็ต้องคว้าเอาไว้ และมั นทำให้คนข า ดจิตสำนึกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ยอมทำทุกอย่ างเพื่อเงิน ไ ม่สนใ จว่ามันเป็นสิ่งที่ผิ ดหรือถูก

9 ครอบครัวมีปัญหามากขึ้น

สมัยก่อนผู้ช ายจะเป็นคนออ กไปทำงาน หาเงินเพื่อมาเลี้ยงครอบครัว ผู้หญิงจะอยู่บ้านคอยดูแลงานบ้าน และเลี้ยงลู ก ทำให้มีเวลาอยู่กับลู กได้ตลอ ด แต่พอมายุคนี้ ทั้งพ่อและแม่ก็ออ กไปทำงานนอ กบ้าน และยิ่งยุคที่เงินห า ย ากยิ่งต้องทำงาน มาก

ขึ้นไปอีก เพราะหาเงิน มาก็ไ ม่พอค่าใช้จ่าย ลูกก็ไ ม่มีใครอยู่ด้วย และยิ่งมีการทำโอทีกลับบ้านดึกดื่น ยิ่งไ ม่มีเวลาเจอหน้ากันเลยในแต่ละวัน และเมื่อพ่อแม่ทำแต่งาน ไ ม่มีเวลาให้ครอบครัว ก็ทำให้ลู กเริ่มมีปัญหาและเป็นปัญหาสังคมต่อไปอีก

ขอขอบคุณ kiddpan, มียิ้ม


กอ ดงานให้แน่นๆ 9 อย่ างนี้ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่ าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กอ ดงานให้แน่นๆ 9 อย่ างนี้ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่ าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย Reviewed by Dusita Srikhamwong on สิงหาคม 11, 2563 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.