แค่วันละ 10 นาที เทียบเท่าการวิ่งเป็นชั่งโมง ท่าง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน
สาระดีๆที่นำมาฝากกันวันนี้ คือ “โยคะ” ซึ่งโยคะนั้นมีประโยชน์ต่อเราสารพัด นอกจากจะช่วยในเรื่องความสวยความงาม ดูแลรูปร่างให้สมส่วนแล้วโยคะ ยังเป็นการฝึกประสาท ฝึกความยืดหยุ่น ความแข็งแกร่ง
และวันนี้เราคัดโยคะ 14 ท่าพื้นฐานที่ดีต่อร่างกาย และทำง่ายๆมาฝาก
1. ท่าแห่งความสุข (สุขะสนะ : Sukhasana)
วิธีการฝึก
– นั่งขัดสมาธิกับพื้น หงายฝ่ามือทั้งสองข้างบนเข่า กำหนดลมหายใจเข้า-ออกให้ลึก และสัมพันธ์กัน หายใจเข้า-ออกลึก ๆ อย่างน้อย 5 ครั้ง
– ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะพร้อม ๆ กับสูดลมหายใจเข้า ค่อย ๆ วางแขนลงช้า ๆ ขณะปล่อยลมหายใจออก
– ทำซ้ำท่าเดิม 5-7 ครั้ง
ประโยชน์
– กระตุ้นการทำงานของตับ ไต และลำไส้
– เสริมสร้างภูมิต้านทาน
– กระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่ท้อง รักษาและบรรเทาอาการปวดสะโพก หลัง เอว ปวดประจำเดือน และทำให้ประจำเดือนมาปกติ
– กระตุ้นระบบการเผาผลาญ
– คนที่กระดูกสันหลังคดหรือเบี้ยวเป็นรูปตัวเอสจะช่วยได้เยอะมาก ให้ค้างนาน ๆ ให้เวลากระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อได้ยืดและคลาย
2. ท่าแยกขาก้มตัว (อุปวิตถะ โกณาสนะ : Konasana Upavistha)
วิธีการฝึก
– นั่งเหยียดขาตรง และแยกขาออกจากกันเท่าที่ทำได้
– ค่อย ๆ ก้มตัวลงช้า ๆ เหมือนกับพับร่างกายลงกับพื้น ให้ทำเท่าที่ทำได้ ห้ามฝืนร่างกายเด็ดขาด
– ขณะครองท่าให้จดจ่ออยู่กับลมหายใจ
– คลายท่าและสังเกตความสบายที่เกิดขึ้น
ประโยชน์
– ช่วยให้กล้ามเนื้อขาได้รับการบริหารอย่างเต็มที่ในการยืดและเหยียดออก ซึ่งปกติกล้ามเนื้อนี้จะหดตัวจากการที่ต้องรับน้ำหนักตัวเราทั้งหมด
– ช่วยปรับความสมดุลของเบญจระยาง คือ สองแขน สองขา และหนึ่งลำตัว ให้อยู่ในสภาวะเหมาะสมและถูกต้อง
– ช่วยให้กล้ามเนื้อทุกส่วนได้รับการยืดพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ในสภาพไร้น้ำหนัก
– ช่วยกระตุ้นระบบประสาท ต่อมเหงื่อ การไหลเวียนเลืoดให้ดีขึ้น
– ช่วยเพิ่มการยืดหยุ่นให้เส้นเอ็น กระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อทุกข้อ
– ช่วยปรับกระดูกสันหลังจากภาวะกระดูกสันหลังคด
3. ท่าบิดตัว (อัฒมัสเยนทราสนะ : Ardha matsyendrasana)
วิธีการฝึก
– ท่าเตรียม นั่งเหยียดเท้าซ้าย ตั้งฝ่าเท้า เท้าขวาวางคร่อมเข่าซ้าย หลังตรง
– หายใจเข้า ยกแขนซ้ายขึ้นเหนือศีรษะ
– หายใจออก แขนซ้ายขัดเข่าขวา แล้วอ้อมมาจับฝ่าเท้าด้านนอก (ถ้าจับไม่ถึงให้ใช้มือซ้าย กอดเข่าขวาชิดอก)
– หายใจเข้า ยกแขนขวามาด้านหน้า
– หายใจออก บิดตัวไปด้านขวา มือขวาวางด้านหลัง บิดเอวให้มาก หลังตรง ตามองข้ามไหล่ สติอยู่ที่ลมหายใจเข้าลึก ออกยาว ผ่อนคลาย ค้างอยู่ในท่าสักครู่
– หายใจเข้า วาดแขนขวากลับมาด้านหน้า
– หายใจออก ลดแขนลง แล้วสลับข้าง ทำซ้ำ 1 – 6 ครั้ง
ประโยชน์
– ช่วยให้กระดูกสันหลังมีการบิดตัว ทำให้ระบบประสาท แนวกระดูกสันหลัง มีการคลายตัว
– ลดอาการบาดเจ็บบริเวณ บั้นเอว สะโพก กล้ามเนื้อแผ่นหลัง
– รักษาภาวะบาดเจ็บเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
– กระตุ้นระบบการย่อย การดูดซึม การเผาผลาญ
– ป้องกันอาการหลังค่อม เนื่องจากการทรุดตัวของกระดูก และอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม
4. ท่าสุนัขก้มหน้า Downward dog (Adho Mukha Asana)
วิธีการฝึก
– เริ่มต้นในท่าคลาน ขาและเข่ากางเท่าสะโพก แขนกว้างเท่าไหล่ กางนิ้วกว้าง
– มือดันพื้น ยกเข่าขึ้นจนขาตรง (หากรู้สึกตึงขาเกินไป งอเข่าเล็กน้อยให้รู้สึกสบาย)
– ก้าวแขนไปข้างหน้าเล็กน้อย และก้าวขาไปข้างหลังเล็กน้อย เกร็งต้นขาไว้
– ดันต้นขาไปที่หลัง หากส้นเท้ายก พยายามกดส้นเท้าให้ติดพื้น
– ผ่อนคลายศีรษะ คอ แล้วปล่อยให้ไหล่ผายไปด้านหลัง
– หายใจลึก ๆ ค้างไว้อย่างน้อย 1 นาที
ประโยชน์
– ช่วยยืดกระดูกสันหลัง เข่าด้านหลัง ต้นขาด้านหลัง น่อง ไหล่ส่วนหลัง และหลังแขน
5.ท่ายืนก้มตัว Standing forward bend (Uttanasana)
วิธีการฝึก
– ยืนท่าภูเขา เท้าอาจจะชิดกัน หรือแยกกันเท่าช่วงไหล่
– ขณะหายใจออกให้ก้มตัวลง โดยใช้จุดหมุนที่ข้อสะโพก ปลายนิ้วมือ หรือฝ่ามือจรดพื้นตรงหน้านิ้วเท้า หรืออาจจะวางฝ่ามือไว้ตรงหลังเท้า
– เมื่อหายใจเข้าให้ก้มหน้าให้มากที่สุด เมื่อหายใจออกให้คลายท่าเล็กน้อย
– อาจจะค้างท่านี้ไว้ 30 วินาทีถึง 1 นาที
– ในการคลายท่าให้ระวังเรื่องกล้ามเนื้อหลัง วิธีการให้ยกมือขึ้นจากพื้น วางมือไว้บริเวณสะโพกก่อนแล้วย่อตัวลงนั่งหายใจเข้าพร้อมกับลุกขึ้นยืน
ประโยชน์
– ลดอาการเครียดและอาการซึมเศร้า
– กระตุ้นอวัยวะช่องท้อง
– ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อต้นขาและทำให้แข็งแรง
– ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
– ลดอาการปวดศีรษะและอาการนอนไม่หลับ
6. ท่านักรบ Warrior (วีรภัทราสนะ : virabhadrasana )
วิธีการฝึก
– ยืนตรง ปลายเท้าชิดกัน ลำตัวตรง หายใจเข้าเบา ๆ และช้า จากนั้นให้ก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหลังให้กว้างพอประมาณ พร้อมกับชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ พยายามเอาแขนแนบหูเอาไว้จะทำให้แขนตรง หน้าอกจะยกขึ้นและจะรู้สึกเกร็งและตึงบริเวณเนินอก
– งอเข่าขวา บิดเท้าซ้ายที่อยู่ด้านหลังให้เฉียงไปด้านหน้าตามเท้าขวาเล็กน้อย (จะเฉียงไปด้านหน้าประมาณ 45 องศา) ถ่ายน้ำหนักไปด้านหน้าของลำตัว แต่ลำตัวส่วนบนยังคงตั้งตรงอยู่ หายใจออกให้ช้าและยาว
– คอยสังเกตอย่าให้เข่าขวาที่งออยู่ด้านหน้าเลยปลายนิ้วเท้า หรือเข่างอในลักษณะเป็นมุมแหลม เพราะจะทำให้เข่าเจ็บได้ เพราะฉะนั้น ขาขวาควรจะงอในลักษณะมุมฉากหรือมุมป้าน หากทำถูกต้องจะรู้สึกเกร็งบริเวณต้นขาขวา ทำให้ขากระชับ และขาซ้ายที่อยู่ด้านหลังจะต้องเหยียดตรง ส้นเท้าซ้ายจะแนบติดพื้นไม่ยกลอย
– เวลากลับคืนสู่ท่าเริ่มต้นให้เหยียดเข่าขวาให้ตรง วาดแขนทั้งสองข้างลงด้านข้างลำตัว ยกเท้าซ้ายกลับที่เดิม
– ทำซ้ำ โดยสลับขาอีกข้าง
ประโยชน์
– ยืดเหยียดเส้นเอ็น หลัง ไหล่ จนกระทั่งถึงข้อเท้า บรรเทาอาการปวดหลัง ไหล่ คอ ปวดเอว ปวดเข่า ปวดน่องและข้อเท้า รวมทั้งลดไขมันรอบ ๆ สะโพก ทำให้หายใจได้ลึกขึ้น
7. ท่าตรีโกณ Triangle (ตรีโกณอาสนะ : Trikon asana)
วิธีการฝึก
– ยืนตัวตรง มือทั้ง 2 ประสานกันแบบนมัสการ
– หายใจเข้า ค่อย ๆ ก้าวเท้าขวาไปด้านหลัง เปิดปลายเท้าออกด้านนอก ทำมุมประมาณ 90 องศา ห่างจากเท้าซ้ายประมาณ 1 เมตร ให้ฝ่าเท้าซ้ายอยู่กึ่งกลางฝ่าเท้าขวา เข่างอเล็กน้อย ลำตัวช่วงบนอยู่ศูนย์กลางเข่าจนถึงปลายเท้าเป็นเส้นขนาน เก็บท้อง สะโพกเข้าแกนกลางลำตัว สะโพกขนานกัน
– หายใจออก เหยียดมือขนานหัวไหล่ งอศอกเล็กน้อย มือขวาวางพื้นขนานกับฝ่าเท้าซ้าย งอศอกเล็กน้อย มือซ้ายเหยียดขึ้นขนานหัวไหล่ ตามองตามปลายนิ้วมือซ้าย หรือเหยียดมือขนานลำตัว ชิดใบหู พยายามเปิดอก ไหล่ แขนซ้าย ตามองขึ้นข้างบน ผ่อนคลายคอ พยายามให้น้ำหนักลงที่ฝ่าเท้าทั้งสองมากกว่าฝ่ามือขวา แล้วค้างท่าไว้ 3-5 ลมหายใจ
– กลับมาสู่ท่าเริ่มต้น ในท่ายืนตรง แล้วทำสลับข้าง
ประโยชน์
– ยืดกล้ามเนื้อต้นขา น่อง เข่า ข้อเท้า ไหล่ หลัง
– กระตุ้นอวัยวะในช่องท้อง
– ลดอาการเครียด
– ช่วยระบบย่อยอาหาร
– ลดอาการวัยทอง
8. ท่าต้นไม้ Tree (พฤกษาสนะ : vrks asana)
วิธีการฝึก
– ยืนตัวตรง มือทั้ง 2 ประสานกันแบบนมัสการ
– ยกขาขวาขึ้น ใช้ฝ่าเท้าประกบที่โคนขาซ้าย ฝ่าเท้าขวาขนานกับต้นขาซ้ายด้านใน ปลายเท้าขวาชี้ลง เปิดเข่า เปิดสะโพก
– เท้าซ้ายรับน้ำหนักตัว เข่างอเล็กน้อย เก็บท้อง เก็บสะโพก เปิดอก เปิดไหล่ ยืดตัวตรง มือพนม ยืดตัวตรง
– เหยียดมือขึ้นเหนือศีรษะ ขนานลำตัว หรือจะเอามือประกบกันก็ได้ แล้วค้างท่าไว้ 3-5 ลมหายใจ
ประโยชน์
– ยืดและทำให้กล้ามเนื้อต้นขา น่อง ข้อเท้า และสันหลังแข็งแรง
– ช่วยให้การสมดุลดีขึ้น
– ลดอาการปวดหลังและฝ่าเท้าแบน
– ลดอาการเครียด
– ช่วยระบบย่อยอาหาร
– ลดอาการวัยทอง
9. ท่าธนู Bow (ธนูอาสนะ : Dhanurasana)
วิธีการฝึก
– นอนคว่ำ เท้าแยกกันพอประมาณ หน้าคว่ำ หน้าผากจรดพื้น
– งอเข่า ให้มือซ้ายจับข้อเท้าซ้าย มือขวาจับข้อเท้าขวา
– หายใจเข้า แล้วยกลำตัว ศีรษะขึ้น พร้อมกับใช้มือดึงข้อเท้า เพื่อยกเข่าและต้นขาขึ้นจากพื้น
– หลังจากยกขาได้สูงสุด ให้บีบเข่าและปลายเท้าเข้าหากันให้มากที่สุด ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาที
– คลายท่า
ประโยชน์
– ช่วยยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหลัง
– กระตุ้นอวัยวะในช่องท้อง
10. ท่าศwอาสนะ (Corpse Pose)
วิธีการฝึก
– นอนหงายราบ เหยียดขา เหยียดแขนข้างลำตัว มือห่างจากสะโพกเล็กน้อย หงายมือ
– หลับตา ดึงจิตมาอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก อย่างเดียว
– ฝึกหายใจลึก และยาว ปรับลมหายใจเข้า-ออก ให้สม่ำเสมอ ไม่กระตุก
– ผ่อนคลายส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และจิตใจ
– หากจิตล่องลอยคิดเรื่องต่าง ๆ เมื่อรู้สติ ให้ดึงจิตกลับมา แล้วปล่อยวางความคิดนั้นไป แล้วดึงจิตกลับไปอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออกใหม่
ประโยชน์
– ทำให้จิตใจสงบ ช่วยลดความตึงเครียด
– ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
– ลดอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวและอาการนอนไม่หลับ
– ช่วยลดความดันโลหิต
11.ท่าเด็ก Child (garbh asana)
วิธีการฝึก
– เข่าเท้าชิด หรือแยกเท้าเล็กน้อย เหยียดปลายขาและข้อเท้าไปข้างหลัง นั่งลงบนส้นเท้า
– ขณะหายใจออกก้มตัว วางหน้าผากลงบนพื้น คอตรงไม่เอียงคอไปข้างหนึ่งข้างใด ก้นอยู่บนส้นเท้า (หากก้มไม่ได้ให้ยกก้นเล็กน้อย)
– เหยียดแขนทั้งสองไปเหนือศีรษะ คืบนิ้วไปให้ไกลที่สุด แล้วกดฝ่ามือทั้งสองให้แนบกับพื้นหรือ แล้วหายใจเข้า-ออก ประมาณ 3-5 ลมหายใจ
– ผ่อนคลายท่า
ประโยชน์
– ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อสะโพก ต้นขา และข้อเท้า
– ลดอาการปวดหลังและปวดคอ
12. ท่างูเห่า Cobra Posture (ภุชชงคาสน :Bhujangasana)
วิธีการฝึก
– นอนคว่ำ งอศอก ต้นแขน และมือ วางชิดลำตัวด้านข้าง ขาชิดกัน หรือจะแยกขาออกประมาณหนึ่งช่วงไหล่ก็ได้
– ยกตัวช่วงบนขึ้น เปิดอก เปิดไหล่ พยายามให้ศีรษะอยู่ขนานกับลำตัวช่วงบน
– เหยียดแขนขึ้น แต่พยายามให้ศอกงอเล็กน้อยเพื่อยกลำตัวช่วงบนขึ้น พยายามยืดศีรษะขึ้นให้ขนานกับลำตัวช่วงบน ค้างท่าไว้ แล้วหายใจเข้า-ออก ประมาณ 3-5 ลมหายใจ
– กลับมาสู่ท่านอนคว่ำ
ประโยชน์
– สร้างความยืดหยุ่นให้กระดูกสันหลัง
– ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
– ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
13. ท่ายืนด้วยไหล่ Half shoulder stand (สว่างอาสนะ : ardha savangasana)
วิธีการฝึก
– ชันเข่าขึ้นให้ส้นเท้าวางกับพื้นติดก้น ให้หายใจออก ใช้แขนและมือทั้งสองข้างกดบนพื้น ยกสะโพกขึ้นพร้อมดึงเข่าไปทางศีรษะในท่าเข่างอ ทำให้ฝ่าเท้าไม่ติดพื้นต้นขาแนบลำตัว
– หายใจเข้าช้า ๆ ขณะหายใจออกยกก้นขึ้นจากพื้น แล้วยกหลังขึ้นจากพื้นจนเข่าทั้งสองข้างอยู่หน้าใบหน้า ใช้มือสองข้างประคองแผ่นหลังจนกระทั่งหลังตั้งฉากกับพื้น แล้วค่อยเลื่อนมือลงดันแผ่นหลังไว้
– หายใจเข้าช้า ๆ ขณะหายใจออกเหยียดเข่ายกปลายเท้าชี้บนเพดาน
– ดันลำตัวขึ้นจนหน้าอกชิดกับคาง หน้าตั้งตรง
– ให้คงท่านี้ไว้ 30 วินาที
– กลับสู่ท่านอนหงาย
ประโยชน์
– ช่วยลดไขมันหน้าท้อง
– ช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลัง
14. ท่าดันพื้น Padasana
วิธีการฝึก
– นอนคว่ำ วางมือ ข้างชายโครงในท่าฝ่ามือดันพื้น งอข้อศอก เท้าทั้งสองชิดกัน ปลายนิ้วยันบนพื้น
– หายใจเข้าเหยียดข้อศอกให้ตึง ลำตัวเหยียดตรง คอยืดขึ้น ส่วนคอไหล่สะโพกและเท้าอยู่ในแนวเดียวกัน
– ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาที – 1 นาที แล้วคลายท่า
ประโยชน์
– เพิ่มความแข็งแรงของแขน ข้อมือ กล้ามเนื้อหลัง
– เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง
แหล่งที่มา : nongyimphiyim.com
แค่วันละ 10 นาที เทียบเท่าการวิ่งเป็นชั่งโมง ท่าง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
กุมภาพันธ์ 20, 2563
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: