ทางแก้ปัญหาชีวิต ล้มได้ต้องลุกให้เป็น
ทุกคนมีโอกาสล้มได้เหมือนกันหมดเลย ไม่ว่าคนนั้นจะมีความสามารถมากน้อยเพียงใหน บางคนล้มลงเพราะว่าถูกผลัก บางคนก็ล้มเองเพราะความประมาท หรือไม่ระมัดระวังในเส้นทางที่ตัวเองเดินอยู่
แต่ข่าวดีก็คือการล้มเหลวหรือการล้มลงไม่ใช่จุดจบของชีวิต ทุกคนมีโอกาสลุกขึ้นมาได้เสมอ ถ้าล้มแล้วทำอย่างไรจึงจะลุกให้เร็ว แน่นอนทุกคนก็เจ็บเหมือนกันหมด แล้วทำอย่างไรให้เจ็บน้อย
ทุกคนมีโอกาสล้มได้เหมือนกันหมดเลย ไม่ว่าคนนั้นจะมีความสามารถมากน้อยเพียงใหน บางคนล้มลงเพราะว่าถูกผลัก บางคนก็ล้มเองเพราะความประมาท หรือไม่ระมัดระวังในเส้นทางที่ตัวเองเดินอยู่ แต่ข่าวดีก็คือการล้มเหลวหรือการล้มลงไม่ใช่จุดจบของชีวิต ทุกคนมีโอกาสลุกขึ้นมาได้เสมอ ถ้าล้มแล้วทำอย่างไรจึงจะลุกให้เร็ว แน่นอนทุกคนก็เจ็บเหมือนกันหมด แล้วทำอย่างไรให้เจ็บน้อย
ก่อนอื่นเราต้องปรับมุมมองเกี่ยวกับความล้มเหลวก่อน ว่าการล้มเหลวนั้นเป็นเรื่องปกติซึ่งใครๆก็ล้มเหลวได้ ผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ก็เคยล้มเหลวมาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราปรับมุมมองได้แล้ว เราก็จะเห็นว่าความล้มเหลวนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ก็จะมีพลังใจที่จะกลับมาก้าวสู่การปรับปรุงตัวเองเพื่อสู่ความสำเร็จต่อไป ใช้ความล้มเหลวให้เป็นบทเรียน แต่อย่าใช้เป็นประสบการณ์มาซ้ำเติมตัวเอง ถ้าสมมุติว่าเราล้มลงแล้ ทำอย่างไรถึงจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้
1. ลุกขึ้นให้ไว หลังจากที่เราอาจจะเผชิญความล้มเหลว เราจะมีความเศร้า มีความผิดหวัง เกิดขึ้นก็อย่าให้ความรู้สึกนี้อยู่กับเรานาน เอาความรู้สึกด้านบวกนั้นกลับมาให้ไวที่สุด พยายามนึกถึงเป้าหมายของเราว่า เราอยากทำตามความฝันเดิมไหม เรายังคงเป้าหมายเดิมไหม ถ้าเรายังอยากคงเป้าหมายเดิมเราก็เอาพลังเราเหลืออยู่ทั้งหมดนี้มาปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อมุ่งไปสู่เดิม วิธีการมันเปลี่ยนแปลงได้แล้ววิธีการที่มันทำให้เราล้มลงมันอาจจะเป็นแค่การทดลองของเราว่าวิธีการนี้ไม่ใช่ ยังมีวิธีการที่มันใช่รอเราอยู่เพราะฉะนั้นรีบลุกขึ้นมาแล้วไปหาวิธีการใหม่เลย
2.โฟกัสที่วิธีการแก้ปัญหา อย่าไปโฟกัสที่ตัวปัญหา ในบางครั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องของการเงิน บางคนก็ไปโฟกัสเรื่องเงิน บางคนก็ไปโฟกัสเรื่องของหนี้ วิตกกังวลว่าเออเรามีหนี้อยู่ก้อนโตจะทำยังไงดี วิธีการที่ดีที่สุดก็คือว่าจะต้องหาวิธีการหาเงินเพื่อมาชำระหนี้นั้นอย่าไปวิตกกังวลมากกับตัวก้อนหนี้ ให้เน้นที่วิธีการที่จะเพิ่มรายได้เพื่อมาสะสางปัญหาและก็ฝ่าวิกฤตของเราต่อไปตามปกติแล้ว ถ้าเรามองอะไรโฟกัสไปที่อะไรเราจะเห็นแต่สิ่งนั้น ถ้าเรามองแต่ปัญหาเราก็จะเห็นแต่ปัญหาไม่เห็นทางออกดังนั้นเปลี่ยนโฟกัส
3. ให้คิดบวกเพราะฉะนั้นเราเราควรจะขอบคุณกับทุกกรณี ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ดีหรือเหตุการณ์ที่เลวร้ายเพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ให้กับชีวิตของเรา เราจะควรขอบคุณกับทุกคนที่เราเผชิญหน้าไม่ว่าจะเป็นคนที่มีบุญคุณกับเราหรือคนที่โกงเราไปก็ตามเพราะว่าเขาเป็นครูที่สำคัญของเราทีเดียว สร้างเสริมประสบการณ์ของเราเพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของเราที่ให้เรามีประสบการณ์มากขึ้นก้าวข้ามปัญหาอุปสรรคต่อไป ให้คิดเสมอว่าบทเรียนและอุปสรรคนี้จะส่งเราไปยังจุดที่ดีกว่าและเราจะต้องไปถึงจุดที่ดีที่สุดเสมอ
4. ช่างสังเกต แล้วก็รู้จักการตั้งคำถามและก็พยายามหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ โดยเฉพาะควรจะสังเกตความคิดของผู้ที่ประสบความสำเร็จควรจะสังเกตเทคโนโลยี หรือความเป็นไปในบ้านเมืองที่จะเจริญก้าวหน้าพยามหาคำตอบว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้นเขาคิดอย่างไร เขามีมุมมองอย่างไรนะครับที่จะแก้ปัญหาต่างๆ แล้วเราก็พยายามจะแก้ปัญหาของเราได้ แนวคิดนั้นๆทุกความสำเร็จทิ้งร่องรอยไว้เสมอแกะรอยให้ถูกแล้วเราก็จะสำเร็จเหมือนเขา
5.พยายามพูดคุยกับคนรอบข้างอาจจะเป็นญาติสนิทของเราเป็นพี่น้องหรือเป็นเพื่อนสนิทเพราะว่าการพูดคุยกับคนอื่นจะช่วยเยียวยาจิตใจของเราได้ จะเป็นการสร้างเสริมกำลังใจของเราเพื่อปลุกพลังทางใจ ปลุกพลังที่เรามีอยู่ให้ขึ้นมาต่อสู้กับปัญหาของเราได้ต้องกล้าปล่อยวาง ปล่อยวางกลัวตัวเองดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ไม่กล้าไปปรึกษาเขาเพราะว่าความกลัวนั้นมันไม่ช่วยอะไรเลย แต่คำแนะนำจากคนอื่นอาจจะช่วยให้เราดีขึ้นอย่างน้อยๆช่วยให้เราระบายความเครียดออกไปแล้วก็มีความรู้สึกที่ดีขึ้นที่จะไปต่อสู้ปัญหาได้
6.เลือกคิดถึงความทรงจำที่ดีๆเลือกคิดถึงความสำเร็จที่เราได้สร้างมาในอดีตเพราะว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างเสริมกำลังใจของเราในยามที่เรานึกถึงทุกครั้งก็ทำให้เราภาคภูมิใจ เราได้ก้าวมาไกลแล้ว ก้าวพ้นอุปสรรคต่างๆมามากมายและทำให้เรามีพลังในด้านบวกที่จะเดินต่อไปอีก บางคนล้มเหลวแค่ครั้งสองครั้งเอง แต่สิ่งที่เขาทำมาดีๆทั้งชีวิตเขา เขาไม่จำแล้วก็ไปเก็บแต่ความล้มเหลวเอาเป็นพลังลบให้ตัวเอง เปลี่ยนใหม่ อดีตที่ผิดพลาดลืมให้หมดเลยแล้วสิ่งที่ดีๆ ทบทวนไปเรื่อยๆจะทำให้เรามีขึ้นมา
7.หยุดคิดในด้านลบ เพราะว่าการที่เราคิดในด้านลบแล้วว่าตัวเองนี้แย่จังเลยตัวเองนี้ไม่มีความสามารถจะไปบั่นทอนความคิดด้านบวกของเรา เพราะฉะนั้นเราต้องหยุดความคิดเหล่านี้ให้หมดเช่นถ้าเรามีปัญหาว่าโปรเจกต์นี้เนี่ยไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เราก็เปลี่ยนความคิดซะใหม่ว่า เออเราได้ทำไปแล้วนะ เต็มที่แล้วนะ อย่างน้อยก็มีคนสนใจระดับหนึ่งถึงจะไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ต้องการก็ตามดีกว่านั่งเฉยๆไม่ได้ทำอะไรอย่างน้อยได้ประสบการณ์ แต่อาจารย์คะคนที่ล้มลงทุกคนแน่นอนเจ็บ ทีนี้มันต้องคิดมากเป็นธรรมดาเราจะทำยังไงล่ะคะถึงไม่คิดมาก
ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบของชีวิตแล้วผู้ที่ประสบความสำเร็จทุกคน พ้นผ่านความล้มเหลวมาทั้งสิ้นแต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ เขาไม่ล้มเลิกแน่นอนว่าวันนี้เราอาจจะเจ็บ แต่ว่าถ้าเราไม่ลุกขึ้นจะเป็นการเจ็บถาวรแต่ถ้าลุกให้ไวความเจ็บก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นลุกขึ้นเถอะอย่าท้อคนที่ท้อเป็นได้แค่ถ่านแต่คนที่ผ่านจึงจะเป็นเพชรและทั้งหมดเป็นส่วนของทันโลก
แหล่งที่มา https://bit.ly/3byKFiD
ทางแก้ปัญหาชีวิต ล้มได้ต้องลุกให้เป็น
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
พฤษภาคม 19, 2563
Rating:
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
พฤษภาคม 19, 2563
Rating:

ไม่มีความคิดเห็น: